ในสาขาของเสียง ความถี่หมายถึงระดับเสียงหรือพิทช์ของเสียง ซึ่งมักแสดงเป็นเฮิรตซ์ (Hz) ความถี่จะกำหนดว่าเสียงนั้นเป็นเสียงทุ้ม เสียงกลาง หรือเสียงสูง ต่อไปนี้คือช่วงความถี่เสียงทั่วไปและการใช้งาน:
1.ความถี่เบส: 20 Hz -250 Hz: นี่คือช่วงความถี่เบสที่มักประมวลผลโดยลำโพงเบส ความถี่เหล่านี้สร้างเอฟเฟกต์เบสที่หนักแน่น เหมาะกับส่วนเบสของเพลงและเอฟเฟกต์ความถี่ต่ำ เช่น เสียงระเบิดในภาพยนตร์
2. ช่วงความถี่กลาง: 250 เฮิรตซ์ - 2,000 เฮิรตซ์ ช่วงความถี่นี้ครอบคลุมช่วงความถี่หลักของเสียงพูดของมนุษย์ และยังเป็นช่วงความถี่กลางของเสียงเครื่องดนตรีส่วนใหญ่ด้วย เสียงร้องและเครื่องดนตรีส่วนใหญ่อยู่ในช่วงความถี่นี้ในแง่ของคุณภาพเสียง
3. ความถี่เสียงสูง: 2000 เฮิรตซ์ - 20000 เฮิรตซ์: ช่วงความถี่เสียงสูงครอบคลุมถึงช่วงเสียงสูงที่มนุษย์สามารถรับรู้ได้ โดยช่วงความถี่นี้ครอบคลุมถึงเครื่องดนตรีที่มีเสียงสูงส่วนใหญ่ เช่น คีย์เสียงสูงของไวโอลินและเปียโน รวมถึงโทนเสียงแหลมของเสียงมนุษย์ด้วย
ในระบบเสียง ในทางอุดมคติ ความถี่เสียงที่แตกต่างกันควรถูกส่งผ่านในลักษณะที่สมดุล เพื่อให้แน่ใจถึงความแม่นยำและคุณภาพของเสียงที่ครอบคลุม ดังนั้น ระบบเสียงบางระบบจึงใช้อีควอไลเซอร์เพื่อปรับระดับเสียงที่ความถี่ต่างๆ เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์เสียงที่ต้องการ ควรสังเกตว่าความไวของหูมนุษย์ต่อความถี่ต่างๆ นั้นแตกต่างกัน ดังนั้น ระบบเสียงจึงจำเป็นต้องสร้างสมดุลให้กับช่วงความถี่ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังที่เป็นธรรมชาติและสบายหูยิ่งขึ้น
กำลังไฟฟ้าที่กำหนดคืออะไร?
กำลังไฟฟ้าที่กำหนดของระบบเสียงหมายถึงกำลังไฟฟ้าที่ระบบสามารถส่งออกได้อย่างเสถียรระหว่างการทำงานต่อเนื่อง ถือเป็นตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพที่สำคัญของระบบ ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจถึงความเหมาะสมของระบบเสียง รวมถึงระดับเสียงและเอฟเฟกต์ที่ระบบสามารถมอบให้ได้ภายใต้การใช้งานปกติ
โดยทั่วไปแล้ว กำลังไฟฟ้าที่กำหนดจะแสดงเป็นวัตต์ (w) ซึ่งระบุระดับพลังงานที่ระบบสามารถส่งออกได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไปหรือเกิดความเสียหาย ค่ากำลังไฟฟ้าที่กำหนดอาจเป็นค่าภายใต้โหลดที่แตกต่างกัน (เช่น 8 โอห์ม, 4 โอห์ม) เนื่องจากโหลดที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อความสามารถในการส่งออกพลังงาน
ควรสังเกตว่าควรแยกกำลังไฟที่กำหนดจากกำลังไฟสูงสุด กำลังไฟสูงสุดคือกำลังไฟสูงสุดที่ระบบสามารถทนได้ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยปกติจะใช้เพื่อจัดการกับเสียงที่ดังหรือแหลมสูง อย่างไรก็ตาม กำลังไฟที่กำหนดจะเน้นไปที่ประสิทธิภาพที่ต่อเนื่องยาวนานมากกว่า
เมื่อเลือกระบบเสียง สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจค่ากำลังไฟฟ้าที่กำหนด เพราะจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าระบบเสียงนั้นเหมาะกับความต้องการของคุณหรือไม่ หากค่ากำลังไฟฟ้าที่กำหนดของระบบเสียงต่ำกว่าระดับที่กำหนด อาจทำให้เกิดเสียงผิดเพี้ยน เสียหาย หรือเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ในทางกลับกัน หากค่ากำลังไฟฟ้าที่กำหนดของระบบเสียงสูงกว่าระดับที่กำหนดมาก อาจสิ้นเปลืองพลังงานและเงิน
เวลาโพสต์ : 31 ส.ค. 2566