การสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับความบันเทิงภายในบ้าน การแสวงหาเสียงที่สมจริงทำให้แอมพลิฟายเออร์โฮมเธียเตอร์ 5.1 และ 7.1 ได้รับความนิยม ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติระบบโฮมเธียเตอร์ มาเจาะลึกคุณสมบัติหลักและข้อดีของแอมพลิฟายเออร์เหล่านี้กัน
1. พื้นฐาน:
- คำจำกัดความ: 5.1 และ 7.1 หมายถึงจำนวนช่องเสียงในการตั้งค่า "5" หมายถึงลำโพงหลักห้าตัว ในขณะที่ "7" หมายถึงเพิ่มลำโพงเซอร์ราวด์อีกสองตัว
- การกำหนดค่า: ระบบ 5.1 มักจะประกอบด้วยลำโพงด้านหน้าซ้าย ลำโพงกลาง ลำโพงด้านหน้าขวา ลำโพงด้านหลังซ้าย และลำโพงด้านหลังขวา พร้อมด้วยซับวูฟเฟอร์ ในขณะที่ระบบ 7.1 จะเพิ่มลำโพงเซอร์ราวด์ด้านหลังอีกสองตัว
2. การดื่มด่ำระบบเสียงรอบทิศทาง:
- ประสบการณ์ภาพยนตร์: การตั้งค่าทั้งสองแบบมอบประสบการณ์เสียงสามมิติ ให้ผู้ฟังได้รับเสียงจากทุกทิศทาง
- ความแม่นยำของพื้นที่: ระบบ 7.1 พร้อมลำโพงด้านหลังเพิ่มเติม ช่วยให้ความแม่นยำของพื้นที่ดีขึ้น เพื่อประสบการณ์เสียงที่ละเอียดยิ่งขึ้น
3. เสียงเบสที่ทรงพลังพร้อมซับวูฟเฟอร์:
- เสียงสะท้อนอันทุ้มลึก: ซับวูฟเฟอร์เฉพาะในทั้งสองการตั้งค่าส่งมอบเสียงเบสที่หนักแน่น เพิ่มผลกระทบของเสียงระเบิด เสียงดนตรี และเอฟเฟกต์ความถี่ต่ำ
- เอฟเฟกต์ความถี่ต่ำ (LFE): ".1" ใน 5.1 และ 7.1 หมายถึงช่องสัญญาณเฉพาะสำหรับเอฟเฟกต์ความถี่ต่ำ ช่วยให้ตอบสนองเสียงเบสได้อย่างทรงพลังและควบคุมได้
4. การรวมระบบโฮมเธียเตอร์:
- ความเข้ากันได้: เครื่องขยายเสียงโฮมเธียเตอร์ระบบ 5.1 และ 7.1 ผสานรวมกับระบบโฮมเธียเตอร์สมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
- การเชื่อมต่อ: อินพุตและเอาต์พุต HDMI ช่วยให้เชื่อมต่อกับแหล่งภาพและเสียงได้อย่างง่ายดาย เช่น เครื่องเล่น Blu-ray คอนโซลเกม และสมาร์ททีวี
โดยสรุป เครื่องขยายเสียงระบบโฮมเธียเตอร์ 5.1 และ 7.1 จะสร้างนิยามใหม่ให้กับระบบเสียงของความบันเทิงภายในบ้าน ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาระบบเสียงที่ทรงพลังแต่ใช้งานง่าย หรือต้องการระบบเสียงรอบทิศทางที่ดีที่สุด เครื่องขยายเสียงเหล่านี้สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ที่ชื่นชอบระบบโฮมเธียเตอร์ได้ ทำให้ความมหัศจรรย์ของภาพยนตร์กลายเป็นความจริงภายในบ้านของคุณ
เวลาโพสต์ : 13 ม.ค. 2567